สิงทีสําคัญและจําเป็ นอยางยิ ่ งในการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ คือ โครงสร้างประโยค (Sentence
Structure) เพราะประโยคภาษาอังกฤษทุกประโยคทีนักเรียนใช้ในการสือสาร มักจะมีโครงสร้าง
ประโยคทีมีลักษณะทีสอดคล้องและสัมพันธ์กน ดังนั ั 4น เพือให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการ
เรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ จึงมีความจําเป็ นในการเรียนโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษเป็ นประการ
แรก

ประโยคภาษาอังกฤษทุกประโยคมักจะมีโครงสร้างสําคัญ คือ
S + V เช่น Jane loves puppies.
Jane and Julia love puppies.
Jane and Julia love puppies and kitten.

V ในทีนี4 ได้แก่
1) กริยาทัวไป เช  ่น walk, eat, run, go
2) Verb to be คือ is, am, are, was, were
3) Verb to have คือ has, have, had
4) Modals / Auxiliary Verb เช่น can, could, will, would, shall, should, may, might, must,
ought to, has/have/had to
Module 2.1 : Nouns
คํานาม (Noun) คือ คําทีใช้เรียกคน สัตว์ สิงของ และสถานที
คํานามทุกคําโดยทัวไป อาจแบ  ่งได้เป็ น 2 ลักษณะคือ
1) Proper Nouns (นามเฉพาะ) ใช้เรียกชือเฉพาะของคน สถานที สิงของ และเหตุการณ์ต่างๆ
เช่น Andrew, Somsri (ชือคน) Asia, Thailand (ชือทางภูมิศาสตร์) Siam Paragon, Wat Ratcha O Rot
School (ชือสถานที) June, Monday, Christmas (ชือเทศกาล วัน เดือน ปี )
2) Common Nouns (นามทัวไป) คือ คํานามทีไม  ่ได้เป็ นชือเฉพาะของคน สถานที สิงของ
และเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามปกติเราอาจจะใช้ articles (a/an, the) กบคํานามประเภทนี ั 4 หรือไม่ใช้ก็ได้
แล้วแต่ความเหมาะสม เช่น dog, flower, hospital, tool, war เป็ นต้น

11

Common Nouns แบ่งเป็ น 2 ลักษณะ คือ
(1) Countable Nouns คือ นามทีนับได้ สามารถเป็ นเอกพจน์ และพหูพจน์ได้ เช่น a book,

an ox, four boys, many schools เป็ นต้น

(2) Uncountable Nouns คือ นามทีนับไม่ได้ ไม่สามารถเป็ นพหูพจน์ได้ เช่น sugar, some

meat, a little oil, a lot of milk
หมายเหตุ : ในภาษาอังกฤษมีคํานามบางตัวทีมีความหมายเหมือนนามนับได้ แต่
ตามหลักไวยากรณ์ถือเป็ นนามนับไม่ได้ เช่น
advice = คําแนะนํา evidence = หลักฐาน
baggage = กระเป๋ าเดินทาง homework = การบ้าน
furniture = เฟอร์นิเจอร์ news = ข่าว
information = ข้อมูล traffic = สภาพจราจร
macaroni = มะกะโรนี

นามบางคําเป็ นได้ทั4งนามนับได้ และนามนับไม่ได้ แต่เมือใช้ต่างกน ความหมายก ั ็ต่างกนด้วย ั

Mass (นามนับไม่ได้) Count (นามนับได้)

Windows are made of glass. I’d like a glass of orange juice.

What beautiful hair! Waiter, there’s a hair in my soup.

12

นอกจากนี4 คํานามอาจแบ่งได้ออกเป็ น
3) Concrete Nouns (นามรูปธรรม) คือ คํานามทีมีตัวตน สามารถมองเห็น สัมผัสได้ เช่น
Countable Nouns (นามนับได้) Uncountable Nouns (นามนับไม่ได้)
a girl, a man
a butterfly, a horse
a flower, a banana
a desk, a bottle, a typewriter
an army, a crowd
a kilo, a metre
a piece, a packet

cotton, wood
milk, water
air, oxygen
camping, dancing
Arabic, Japanese, English

4) Abstract Nouns (นามธรรม) คือคํานามทีไม่มีตัวตน มักจะมีความหมายเกียวข้องกบั
ความคิด จินตนาการ อารมณ์ ความรู้สึก และคุณภาพต่าง ๆ เช่น anger, happiness, idea, truth, honesty,
knowledge
คํานามนับได้โดยทัวไปจะมีลักษณะเป็ นเอกพจน์ (Singular) หรือพหูพจน์ (Plur  al)
นามเอกพจน์ (Singular) จะมี article (a/an, the) เป็ นตัวบ่งบอก เช่น a house, an apple, an hour
นามพหูพจน์ (Plural) จะสังเกตได้จาก –s ทีเติมท้ายคํานาม เช่น houses, apples, hours
แนวทางในการเปลียนคํานามเอกพจน์เป็ นพหูพจน์
1. คํานามทีลงท้ายด้วยพยัญชนะ s, z, ch, sh, x เมือเป็ นพหูพจน์ ให้เติม –es เช่น
bus -> buses watch -> watches
class -> classes bench -> benches
buzz -> buzzes dish -> dishes
quiz -> quizzes box -> boxes
2. คํานามทีลงท้ายด้วย พยัญชนะ + y ต้องเปลียน -y เป็ น i แล้วเติม –es เช่น
country -> countries fly -> flies
แต่ถ้าข้างหน้า y เป็ นสระ (a, e, i, o, u) ให้เติม s ได้ทันที เช่น
day -> days boy -> boys
3. คํานามทีลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ต้องเปลียนเป็ น –v แล้วเติม –es เช่น
wife -> wives wolf -> wolves
แต่ถ้าในคํานั4นมี สระ + f เมือเปลียนเป็ นพหูพจน์ เติม –s ได้ทันที เช่น
chief -> chiefs roof -> roofs

13

4. คําทีลงท้ายด้วย -o เมือเปลียนเป็ นพหูพจน์ ให้เติม –es เช่น
hero -> heroes potato -> potatoes
tomato -> tomatoes echo -> echoes
คําทีลงท้ายด้วย –o ต่อไปนี4 เติม –s หรือ –es ก็ได้ เช่น
buffalo -> buffalos / buffaloes mosquito -> mosquitos/mosquitoes
cargo -> cargos / cargoes volcano -> volcanos / volcanoes
tornado -> tornados / tornadoes
คําทีลงท้ายด้วย –o ต่อไปนี4 ต้องลงท้ายด้วย –s เท่านั4น เช่น
4.1) หน้า –o เป็ นสระ เช่น
bamboo -> bamboos folio -> folios
radio -> radios video -> videos
zoo -> zoos kangaroo -> kangaroos
4.2) เป็ นคํายอ เช ่ ่น
kilo -> kilos photo -> photos
4.3) คําทีหมายถึงคําศัพท์เกี

ยวกบดนตรีทีมาจากภาษาอิตาเลียน เช ั ่น
concerto -> concertos piano -> pianos
solo -> solos soprano -> sopranos
4.4) ชือเฉพาะ เช่น
Eskimo -> Eskimos Filipino -> Filipinos
5. คํานามบางคํา เมือเปลียนเป็ นพหูพจน์ จะมีการเปลียนรูป เช่น
foot -> feet tooth -> teeth
goose -> geese louse -> lice
mouse -> mice man -> men
woman -> women ox -> oxen
child -> children
6. คํานามบางคํามีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกน เช ั ่น
deer -> deer salmon -> salmon
sheep -> sheep craft -> craft
Chinese -> Chinese

14

7. คํานามบางคํามีรูปเอกพจน์และพหูพจน์เหมือนกน แต ั ่เมือเติม –s หรือ –es ทีท้ายคําจะมี
ความหมายวา “ชนิดต ่ ่าง ๆ หรือหลาย ๆ ชนิด” เช่น
fruit (ผลไม้) -> fruit (ผลไม้หลายผล) -> fruits (ผลไม้หลายชนิด)
fish (ปลา) -> fish (ปลาหลายชนิด) -> fishes (ปลาหลายชนิด)
8. คํานามบางคํา แม้เป็ นรูปเอกพจน์ แต่มีความหมายพหูพจน์ เช่น cattle (ฝูงโคกระบือ)
military (กองทหาร) people (ประชาชน) police (กองตํารวจ) vermin (สัตว์/แมลงทีทําลายพืชและอาหาร
มนุษย์)
9. คํานามบางคําอยู่ในรูปพหูพจน์ (มี –s ท้ายคํา) แต่มีความหมายเอกพจน์และใช้กริยา
เอกพจน์ เช่น news, billiards, bowls, darts, dominoes, Athens, Brussels, Naples, Mathematics, Physics,
Linguistics, Gymnastics, Measles, German Measles, mumps
10. คํานามบางคําอยู่ในรูปพหูพจน์ (ลงท้ายด้วย –s เสมอ) และใช้กับกริ ยาพหูพจน์ มี
ความหมายเป็ นพหูพจน์ เช่น trousers (กางเกงขายาว) pants (กางเกงขายาว) shorts (กางเกงขาสั4น)
glasses (แวนตา) ่

5) Collective Nouns คือ คํานามทีหมายถึงคน สัตว์ หรือสิงของ ทีรวมกนเป็ นกลุ ั ่ม

The family has lived here for hundreds of years.
The Family have all gone on holiday.

The present government is trying to control inflation.
The government are calling for a general election soon.

ลักษณะเด่นของ Collective Nouns คือ สามารถใช้เป็ นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ แล้วแต่
ความหมายทีต้องการ จะใช้กริยาเอกพจน์ เมือคํานามเป็ นกลุ่ม 1 กลุ่ม เป็ นหน่วยเดียวกน และใช้กริยา ั
พหูพจน์เมือคํานาม คือ คน สัตว์ สิงของมากมายมารวมกน ั
ตัวอยาง Collective Noun เช ่ ่น audience, class, club, committee, company, crew, crowd, gang,
government, mob, staff, team, union